เสน่ห์ไต้หวัน - ALL ABOUT JOURNEY

ไต้หวัน หรือ ไถวาน (Taiwan) มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐจีน (Republic of China) ประกอบด้วยเกาะใหญ่ 5 แห่ง คือ จินเหมิน ไต้หวัน เผิงหู หมาจู่ และ อูชิว กับเกาะเล็กเกาะน้อยรวมกันทั้งสิ้น 172 เกาะ มีพื้นที่รวม 36,193 ตร.กม. อยู่ห่างจากประเทศไทยประมาณ 2,504 กม.

เดิมเกาะไต้หวันมีชื่อว่า เกาะฟอร์โมซา (Formosa) หรือ Ilha Formosa ซึ่งแปลว่า”เกาะที่สวยงาม” ในภาษาโปรตุเกส

สถานที่น่าสนใจ

1.ตึกไทเป 101 (Taipei 101) เดิมชื่อ ศูนย์การเงินโลกไทเป เป็นตึกระฟ้าสูง 508 ม. ตั้งอยู่ในย่านซินยี กรุงไทเป เป็นอาคารสูงที่สุดในโลกอย่างเป็นทางการตั้งแต่ พ.ศ. 2547–2553 ชั้น 1-5 เป็นศูนย์การค้าอย่างหรู ร้านแบรนด์เนมเพียบ ชั้นใต้ดินเป็นศูนย์อาหารขนาดใหญ่ แต่ที่มาถึงแล้วห้ามพลาดคือการขึ้นลิฟท์ที่เร็วที่สุดในโลก (1 กม.ใน 1 นาที) ไปชมวิวที่ชั้น 89-91 ค่าขึ้นตึกประมาณ NT$ 500

Tip: ช้อปปิ้งที่นี่ขอคืนภาษีได้เลยไม่ต้องไปทำเรื่องที่สนามบิน ถ้าตรงกับวันออกผลล็อตเตอรี่ควรเก็บใบเสร็จให้ดี เพราะเลขที่ใบเสร็จของคุณสามารถลุ้นรางวัลได้ด้วย

2.พิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติ หรือ พิพิธภัณฑ์กู้กง (National Palace Museum) ตั้งอยู่ในกรุงไทเป มีการจัดเก็บโบราณวัตถุและงานศิลปะของจักรวรรดิจีนเกือบ 700,000 ชิ้นซึ่งถือว่ามากที่สุดในโลก มากกว่าในจีนแผ่นดินใหญ่ด้วยซ้ำเพราะพรรคก๊กมินตั๋งกวาดมาเกือบหมดตอนอพยพ โดยปกติจะใช้เวลาเดินชมประมาณ 3-5 ชั่วโมง ค่าเข้าชมประมาณ NT$ 350 ไม่รวมค่าเช่าเครื่องบรรยายอีกประมาณ NT$ 150

Tip: เวลา 16.00-17.00 เป็นเวลาที่มีผู้เข้าชมมากที่สุด ควรหลีกเลี่ยง

3.อนุสรณ์สถานอดีตประธานาธิบดีเจียงไคเชก (Chiang Kai-Shek Memorial Hall) อาคารหินอ่อนสีขาวหลังคาสีน้ำเงินซึ่งเป็นสีประจำพรรคก๊กมินตั๋งนี้เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่ 09.00-18.00 น. ภายในจัดแสดงประวัติ เรื่องราว ข้าวของเครื่องใช้ของ ฯพณฯ

Tip: ห้ามพลาดพิธีเปลี่ยนเวรทหาร ซึ่งจะมีทุกๆต้นชั่วโมงตั้งแต่เวลา 10:00-16:00 น.ของทุกวัน ขอแนะนำให้คุณลองไปยืนจ้องตาทหารยามเพราะมีข่าวลือว่าพวกเขาไม่กะพริบตากันเลย

4.หมู่บ้านโบราณจิ่วเฟิ่น(Jiufen Village) ตั้งอยู่บนไหล่เขาในเมืองจีหลงห่างจากกรุงไทเปเพียง 40 กม. ที่นี่เคยเป็นเหมืองทองคำที่มีชื่อเสียง จุดเด่นอยู่ที่อาหารการกินเพราะมีมากจริงๆ และ กลิ่นอายความเป็นเมืองโบราณที่ยังอยู่ครบถ้วนผ่านสถาปัตยกรรมของบ้านเรือนและอาคารต่างๆ

Tip: ตั้งแต่เย็นถึงค่ำ แสงจากบรรดาร้านค้าและโคมไฟสีแดงจะส่องสว่างสวยน่าประทับใจ ขอแนะนำให้คุณหาร้านที่วิวสวยๆสักร้านเพื่อชมภาพบ้านเรือนแบบโบราณที่ปลูกเรียงรายลดหลั่นกันไปตามเชิงเขา ส่วนข้อควรระวังคืออย่านินทาใครด้วยภาษาไทย เพราะมีโอกาสสูงมากที่คุณจะเจอกับคนไทยด้วยกัน

5.ทะเลสาบสุริยันจันทรา ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน มีพื้นที่ประมาณ 8 ตร.กม. ทิศเหนือมีรูปทรงคล้ายกับพระอาทิตย์ และทิศใต้คล้ายกับพระจันทร์เสี้ยว สวยงามแปลกตามากจนเป็นที่มาของชื่อ กิจกรรมที่น่าสนใจคือ นั่งเรือชมทะเลสาบ นมัสการวัดพระถังซัมจั๋ง (Xuanguang Temple) และนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปชมหมู่บ้านวัฒนธรรมชนเผ่า อะบอริจิน ฟอร์โมซาน (Formosan Aboriginal Culture Village) ที่มีสวนสนุกพร้อมเครื่องเล่นไว้คอยต้อนรับคุณด้วย

Tip: ทะเลสาบนี้ไม่อนุญาตให้ลงว่ายน้ำเล่น /หากอยากเที่ยวสวนสนุกควรจองล่วงหน้า

6.อุทยานแห่งชาติอาลีซาน (Alishan National Park) ตั้งอยู่ที่เมืองเจียอี้ มีพื้นที่ 8,750 ไร่ อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 2,200 เมตร กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดคือเดินชมป่าสนอายุหลายพันปี และ ชมพระอาทิตย์ขึ้น

Tip: หากคุณเมารถง่ายต้องเตรียมยาไปด้วย /การไปชมพระอาทิตย์ขึ้นมี 2 วิธี 1. รถไฟ 25 นาที 2. เดินประมาณ 40 นาที ควรเช็คเวลาพระอาทิตย์ขึ้นจากเจ้าหน้าที่ก่อน /อากาศหนาว

7.อุทยานธรณีเย่หลิว (Yehliu Geopark) ตั้งอยู่ที่ส่วนเหนือสุดของเกาะไต้หวัน เป็นแหลมทอดยาวออกไปในทะเล 1.7 กม. อิทธิพลของคลื่นลมทะเลนานนับล้านปีทำให้หินปูนเกิดการผุกร่อนเป็นรูปทรงต่างๆ และที่เป็นสัญลักษณ์และมีนักท่องเที่ยวเข้าคิวรอถ่ายรูปด้วยมากที่สุดคือ หินเศียรราชินิ (Queen’s Head)

Tip: บริเวณที่จอดรถมีร้านอาหารทะเลหลายร้าน อร่อยและไม่แพง /จากทางเข้าคุณต้องเดินเข้าไปค่อนข้างไกล /แทบทุกวันจะมีนักท่องเที่ยวจากจีนแผ่นดินใหญ่เยอะมาก ควรเผื่อเวลาและใจ

8.อุทยานแห่งชาติไท่หลู่เก๋อ(Taroko Nationnal Park) หรือชื่อที่ติดหูคนไทยคือ อุทยานทาโรโกะ ตั้งอยู่ในเมืองฮวาเหลียน ทางฝั่งตะวันออก เป็นอุทยานมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของไต้หวัน มีทัศนียภาพเป็นภูเขาหินอ่อน และหน้าผาสูงชัน มีความอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก

Tip: หากต้องการเดินทางไปอุทยานทาโรโกะ ควรใช้เวลา 2 วัน 1 คืน คุณจะได้มีเวลาชมธรรมชาติได้อย่างเต็มที่

Tips

  1. ไต้หวันเป็นสวรรค์ของนักช้อป (เพราะมีร้านค้าปลอดภาษี) และผู้ที่ชื่นชอบอาหารทะเล (เพราะสดใหม่และราคาถูก)

  2. ช่วงที่น่าไปมากที่สุดคือ ฤดูใบไม้ผลิ (เดือนมีนาคม-พฤษภาคม)

  3. ในไต้หวันฝนอาจตกได้ตลอดเวลา ควรเตรียมร่มและชุดกันฝนไปด้วย

  4. ทุกๆวันจะมีนักท่องเที่ยวจากจีนแผ่นดินใหญ่ราว 5,000 คนมาเที่ยวไต้หวัน

  5. อาหารยอดฮิตคือ ชานมไข่มุก เต้าหู้เหม็น และ ไก่ทอด Hot Star ซึ่งเต้าหู้เหม็นนั้นอาจไม่เหมาะกับทุกคน

  6. แม้ว่าคุณจะไม่พบก้นบุหรี่ตามทางเท้าในกรุงไทเปเลยเนื่องจากรัฐบาลปรับหนัก แต่หากคุณสนใจจะนั่งทานอาหารในร้านตามริมถนนคุณอาจเจอคนสูบบุหรี่ถึงแม้ว่าร้านนั้นจะติดแอร์ก็ตาม

สนใจทัวร์ไต้หวันคลิ๊กที่นี่ค่ะ 

Top